- Details
- Category: เกษตร
- Published: Friday, 08 December 2017 16:36
- Hits: 8560
สมคิด` สั่งก.เกษตร หาแผนช่วยเกษตรกรรายได้น้อย ดูแลราคาสินค้าเกษตรโดยเฉพาะยางพาราที่ตกต่ำ
สมคิด ฝากก.เกษตร อุ้มเกษตรกรมีรายได้น้อย หวังมีชีวิตดีขึ้น พร้อมน้อมนำพระราชกระแสรับสั่ง ร.10 ดูแลประชาชนมาปฏิบัติ ฟากก.เกษตร รับลูก เตรียมพร้อมรับซื้อยาง แก้ไขราคาตกต่ำ หวังแก้ไขปัญหายางซ้ำซาก 15 ปี ขณะเดียวกันเตรียนต่อสู้ความยากจน คาดเสนอ ครม.ได้ใน 2 สัปดาห์
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการมอบนโยบายกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมหาแนทางในการดูแลราคาสินค้าเกษตร ร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส. ว่า ในการตรวจเยี่ยมวันนี้ ยืนยันว่า ไม่ได้มาแทรกแซงการทำงาน แต่ต้องการร่วมหาแนวทางในการช่วยเหลือเกษตรกรผู้มีรายได้น้อย และที่ติดหล่มความยากจน จากราคาสินค้าตกต่ำ ซึ่งที่ผ่านมาในหลวงรัชกาลที่ 10 ได้มีพระราชกระแสรับสั่งว่า ให้ดูแลประชาชน โดยเฉพาะคนจนที่มีรายได้น้อย และเกษตกรที่มีอยู่ 20-30 ล้านคน ซึ่งมีสัดส่วนต่อจีดีพีเพียง 8-9% เท่านั้น ดังนั้นจึงต้องหาแนวทางให้กลุ่มดังกล่าวเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนและผลักดันเศรษฐกิจมากขึ้น
“ธนาคารโลกล่าสุดรายงานว่า ความยากจนของไทยมันดีขึ้น และเริ่มเติบโตได้อย่างยั่งยืน ซึ่งเป็นสิ่งที่น่ายินดี แต่เราก็ต้องทำให้มันดีขึ้น และนโยบายของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ระบุว่า ต้องการให้ความช่วยเหลือแก่กลุ่มประชาชนข้างล่าง สร้างเศรษฐกิจฐานรากให้แข็งแกร่ง เพราะขณะนี้ข้างบนเริ่มหมุนได้ ซึ่งก็ต้องทำให้ข้างล่างหมุนได้ เพื่อเป็นแรงหมุนของเศรษฐกิจด้วย และขอยืนยันว่า การแก้ปัญหาครั้งนี้ เกษตรกรจะต้องมีชีวิตดีขึ้น แต่จะช่วยยังไงโปรดติดตามต่อไป”นายสมคิด กล่าว
นายสมคิด กล่าวว่า กระทรวงเกษตรจะต้องหามาตรการในการดูแลเกษตรกรรายได้น้อยทั้งระยะเร่งด่วน ระยะกลาง และระยะยาว โดยเฉพาะขณะนี้เรื่องที่ต้องแก้ไขเร่งด่วน คือ ปัญหาของราคายางที่สะสมมา 15 ปี รัฐมนตรีว่าการและรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรจะต้องหาแนวทางในการดูแล โดยเฉพาะการดูแลและประคองราคาให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ขณะที่เรื่องข้าว ที่ผ่านมาขาดการบริหารจัดการที่ดี ดังนั้น จะต้องเร่งหาแนวทาง โดยที่ผ่านมาพบว่า มีข้าวในสต๊อกกว่า 500,000 ตัน ซึ่งพยายามเร่งระบาย แต่สิ่งสำคัญอื่นเพิ่มคือ จะทำอย่างไรไม่ให้เกินภาวะสต๊อกล้นอีก
ขณะที่ระยะกลางและระยะยาว จะต้องทำอย่างไรให้เกษตรกรแข็งแรง เกิดการเปลี่ยนพฤติกรรม ในการผลิตสินค้าหลายอย่าง การทำเกษตรแปลงใหญ่ รวมถึงการนำเทคโนโลยีมาเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตด้วย ด้านสหกรณ์ จะต้องเร่งสร้างให้มีความเข้มแข็ง เกษตรกรมีค่อนข้างเยอะ และไม่อยากให้รอพ.ร.บ.ออกมา แต่ต้องเดินหน้าไปก่อน เนื่องจากที่ผ่านมา กระทรวงการคลังจะเข้าไปดูแลให้ แต่กระทรวงเกษตรระบุว่าอยากจะกลับไปดูแลเอง ดังนั้นก็จะต้องเร่งดูแลให้มีประสิทธิภาพ
ด้านนายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับมาตรการเร่งด่วน คือ การแก้ไขราคายาง ซึ่งขณะนี้ราคาได้ปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 46 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งจะร่วมกับภาคเอกชนในการรับซื้อยางเพิ่มเพื่อดูดซับยางในตลาดที่ล้นในตอนนี้ นอกจากนี้ ยังให้ภาครัฐเร่งซื้อยางพารา เพื่อรองรับการซ่อมถนน โดยจะให้เพิ่มการซื้อจาก 33,000 ตัน เป็น 50,000-80,000 ตัน แต่หากมาตรการนี้ยังไม่สามารถทำให้ยางฟื้นตัวได้ดีขึ้นไป จะให้การยางแห่งประเทศไทย เข้าไปซื้อยาง โดยยืนยันว่าจะรับซื้อในราคาไม่ต่ำกว่าต้นทุน
นายลักษณ์ วจนานวัช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า มาตรการในการดูแลเกษตรกรนั้น จะมีหลายแนวทาง โดยเฉพาะการดูแลพืชที่สำคัญ ทั้ง ข้าว ยาง ปาล์ม และมันสำปะหลัง ซึ่งเรื่องดังกล่าวจะต้องมีคณะทำงานร่วมกันในการร่วมกันแก้ไขปัญหาดังกล่าว รวมถึงการสร้างระบบเพื่อติดตามสต๊อก ภาวะตลาด เพื่อใช้เป็นแนวทางในการนำเสนอมาตรการที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพพร้อมใช้
ขณะที่การแก้ไขปัญหาความยากจนนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างเตรียมพร้อมมาตรการการต่อสู้ความยากจน โดยจะใช้ฐานข้อมูลของกระทรวงการคลังในการรวบรวมผู้มีรายได้น้อยมาดำเนินการ ซึ่งคาดว่าจะเสนอคณะรัฐมนตรี หรือ ครม. ได้ใน 2 สัปดาห์ เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ประชาชน สำหรับปัญหาอื่นๆนั้น ทุกอย่างจะต้องแล้วเสร็จและเห็นผลเป็นรูปธรรมใน 3 เดือน